เจอผิดหวังเสียบ้าง

ทั้งวันเมื่อวานนั่งเหลาก้านไม้กวาดจนค่ำหลังขดหลังแข็ง มีคนบอกอยากจะมาเรียนและช่วยเหลาก้านไม้กวาด เราก็บอกว่าไปทำอย่างอื่นดีกว่า อันนี้เราภาวนาทำสมาธิของเรา ส่วนคนอื่นมันอาจเป็นการทำงานที่ทรมานร่างกายแบบไม่คุ้มค่าก็ได้นะ
เราเหลาไม้กวาดไปรับแขกด้วยสลับกันไป ท่านนายอำเภอทองผาภูมิลูกศิษย์ผู้อ่อนน้อมถ่อมตนมากราบสวัสดีปีใหม่และขอพร เราก็ให้พรด้วยความเมตตาและเอ็นดู ยิ่งเห็นผิวนายอำเภอดำคล้ำยิ่งรู้สึกสงสาร คนเคยขาวมาก ๆ และมาดำมาก ๆ นี่แสดงว่าหน้าที่การงาน ที่ทำต้องหนักไม่ใช่น้อยเป็นแน่ ดูแล้วไม่น่าจะผิดไปจากที่คิด เพราะเรารู้จักใจของท่านดี “อ่อนน้อม ขยัน ทำจริง และจริงใจ”
๖ โมงครึ่งหลังจากสรงน้ำเสร็จ ด้วยความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมาก ๆ เราเลยของีบสักพักรอเวลาสวดมนต์ ที่ไหนได้ลืมตาอีกทีเลยเวลาสวดมนต์ไปแล้ว ลุกจากที่นอนถือถุงขนมไปให้เด็กหญิงสะมันตาชุมนุมเทวดา ได้ยินเสียงแจ้ว ๆ จากลำโพงนอกอาคารพระธาตุ เด็ก ๗ ขวบนี่เสียงใส ๆ บวกเหน่อเข้าไปด้วยช่างน่ารักแท้
พอสวดมนต์เสร็จก่อนภาวนาทำสมาธิ เราได้เรียกให้นางมารับขนม ที่ไหนได้ ย่าบอกว่ากลับบ้านไปอ่านหนังสือแล้ว เราฟังก็รู้สึกสงสารนางที่คงจะผิดหวังไม่ได้ขนมจากหลวงปู่วันนี้
ช่วงทำสมาธิเราก็เลยเทศน์เรื่องผิดหวังให้ฟังเสียเลย
“เด็ก ๆ นั้น ฝึกให้เขาผิดหวังบ้างก็ดี เขาจะได้รู้จักว่าโลกนี้อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอน อาจสมหวังก็ได้หรือจะผิดหวังก็ได้ เขาจะได้ไม่ไว้ใจโลกมากนัก และโตขึ้นจะได้ไม่เอาแต่ใจตนมากนักด้วย”
“ส่วนผู้ใหญ่นั้น ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องศึกษาเพราะถือว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องศึกษาทั้งนั้นถ้ายังมีทุกข์อยู่ ทุกข์มาจากทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เราทุกคนต้องศึกษาและสังเกต เราจึงจะเข้าใจในทุกข์หรือในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เห็นมั้ยล่ะว่าเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องศึกษาด้วย”
เทศน์จนหมดเวลาก็ปล่อยนักเรียนกลับกุฏิกลับบ้าน ให้ไปศึกษาต่อกันเอาเอง ส่วนเราก็เดินกลับกุฏิใหม่ท่ามกลางความมืดมิดไปตามลำพัง เดินไปก็ศึกษาไปพิจารณาอะไร ๆ ไป “โลก นี้มีทั้งมืดทั้งสว่าง มีทั้งสงบและวุ่นวาย มีทั้งดีและชั่ว มีทั้งบัณฑิตและคนพาล สุดท้ายก็อยู่ที่ว่า คนเราจะเลือกอยู่ฝั่งไหน?”

วัดพระธาตุโพธิ์ทอง
๙ ม.ค.๖๗

By admin